ครีมรักษา ฝ้า จะมีความเข้มข้นและมีฤทธิ์น้อยกว่ายารักษาฝ้า เพื่อให้ปลอดภัยต่อการทา ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษานั้นน้อยกว่ายารักษาฝ้า โดยครีมรักษาฝ้าสามารถหาซื้อใช้ได้เองง่าย ๆ แต่ยารักษาจะต้องใช้ตามแพทย์สั่งเท่านั้น เพราะจะต้องมีการตรวจและติดตามอาการ พร้อมดูผลข้างเคียงร่วมด้วย หากทาครีมรักษาฝ้าชนิดที่ไม่ผ่านการรับรอง อาจมีสารออกฤทธิ์คล้ายตัวยาความเข้มข้นสูง หรืออาจจะมีสารต้องห้าม เช่น ปรอทและสเตียรอยด์ เป็นต้น เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจมีผลข้างเคียงต่อผิวหนังได้
ครีมทาฝ้าอัตรายกว่าที่คิด!
ครีมทาฝ้า ที่ขายตามท้องตลาด บางชนิดอาจจะมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการฝ้าได้ก็จริง แต่อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพการรักษาฝ้านั้น มีความแตกต่างกับยารักษาฝ้า และครีมทาฝ้าที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป บางชนิดอาจมีอันตรายต่อผิวหนังได้เช่นกัน เพราะครีมเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการรับรอง ผู้บริโภคจำเป็นต้องรู้จักแยกแยะในการเลือกใช้ เพื่อความปลอดภัยของผิวหนัง ครีมทาฝ้าที่ไม่ผ่าน อย. บอกเลยว่าส่วนผสมที่อยู่ในตัวครีมอาจเป็นอันตรายได้ การทาครีมที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงต่อผิวหนัง เพิ่มโอกาสการติดเชื้อของผิว สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ผิวบางลงจนเห็นเส้นเลือด สีผิวไม่สม่ำเสมอ และเกิดรอยดำอย่างถาวร
วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการเป็น ฝ้า
- เลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ควรมีเครื่องป้องกัน เมื่อต้องออกจากบ้าน
- ทา ครีมกันแดด ที่มีส่วนผสมเหมาะกับคนเป็นฝ้าโดยเฉพาะ และควรทาทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดรังสี UV
- รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
- ดูแลสุขภาพผิวเป็นประจำ พร้อมการประคบเย็นที่ใบหน้าบ่อยครั้ง เพื่อลดการอักเสบของผิวหลังการออกแดด
- เมื่อมีการพบแพทย์ผิวหนัง ต้องไปตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อการดูแลและรักษาอย่างต่อเนื่อง
ถ้าใครที่กำลังเป็นฝ้าและหาครีมใช้เพื่อรักษา แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ หรือซื้อครีมที่มี อย. รองรับเท่านั้น เพื่อไม่ให้ผิวหน้าต้องเกิดอันตราย